”You are what you eat” เป็นวลีที่เราได้ยินกันคุ้นหู แต่รู้ไหมว่าวลีนี้มีที่มากันอย่างไร เริ่มต้นจากหนังสือ Physiologie du Gout, ou Meditations de Gastronomie Transcendante, 1826 ซึ่งแต่งโดย Anthelme Brillat-Savarin ได้พูดประโยค “Dis-moi ce que tu manges, je te dirai ce que tu es.” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Tell me what you eat and I will tell you what you are”
ต่อมาก็มีบทความในหนังสือ Concerning Spiritualism and Materialism, 1863/4 แต่งโดย Ludwig Andreas Feuerbach ได้พูดประโยคว่า “Der Mensch ist, was er ißt.” ซึ่งแปลได้ว่า ‘man is what he eats’ นักเขียนทั้ง 2 ท่านพยายามจะสื่อว่า อาหารที่เราทานสะท้อนสภาพร่างกายและจิตใจของเรา ทั้ง 2 วลีไม่ได้มีการแปลเป็นคำภาษาอังกฤษ จนกระทั้งปี 1920 นักโภชนาการ Victor Lindlahr ผู้ที่เชื่อมั่นในแนวคิด อาหารควบคุมร่างกายของเรา ซึ่งก็มีผู้สนับสนุนแนวความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งในช่วงปี 1923 ก็ได้มีการโฆษณาที่กล่าวถึง
“Ninety per cent of the diseases known to man are caused by cheap foodstuffs. You are what you eat.”
ในปี 1942 Lindlahr ได้แต่งหนังสือ You Are What You Eat: how to win and keep health with diet. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ประโยคดังกล่าว ได้มีการพูดกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งต่อมาในปี 1960 อาหารจำพวก macrobiotic wholefood ก็ได้นำสโลแกนนี้ไปใช้กันอย่างมากมาย และดูเหมือนว่าวลี You Are What You Eat จะมีกระแสแรงมาก เมื่อ Adelle Davis, ผู้ขับเคลื่อนการกินอาหารออแกนิก ได้ออกมากล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เธอป่วยเป็นมะเร็งและต้องเสียชีวิตเกิดจากการทานอาหารขยะในช่วงที่เธอเรียนอยู่ในวิทยาลัย
ตั้งแต่ปี 1826 ทั่วโลกตื่นตัวกันมากเกี่ยวกับคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารที่เราทานซึ่งจะส่งผลกับสุขภาพที่จะตามมา มาเริ่มต้นทานสิ่งดี ๆ มีประโยชน์เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงกันก่อนที่โรคภัยจะถามหากันดีกว่า เชิญพบและสั่งซื้ออาหารออแกนิคมาตรฐาน USDA และ EU Organic ทั้งแบบสด ปรุงสุกพร้อมเสริฟ และแปรรูป มีเมนูให้เลือกหลากหลายแบบไม่รู้เบื่อกันได้แล้ววันนี้ที่